แสงแดดภัยร้ายทำลายผิว
โพสต์เมื่อ: 2 มิ.ย 2563 เวลา 22:06:42 น. อ่าน: 2,006 ครั้ง
แสงแดดและความร้อนถือเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำร้ายผิวของเราโดยตรง ในทุกวันเราต้องเจอกับมลภาวะ แสงแดด และความร้อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีวิธีป้องกัน และการรับมือเมื่อเจอกับผิวที่เสียสะสมจากแดดที่จะสร้างความหมองคล้ำให้กับผิวของเรา หากเราสามารถทำสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นประจำได้บอกเลยว่าผิวเราจะแข็งแรงขึ้น กระจ่างใสขึ้นได้อย่างแน่นอน เรามาดูวิธีที่ควรทำในแต่ละวัน และทำอย่างไรถ้าผิวไหม้จากแสงแดดและความร้อนกันเลย
1.ทาครีมบำรุงผิว
ถึงแม้ว่าอาการจะร้อนยังไง การบำรุงผิวก็ยิ่งมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ข้อนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหนุ่มๆสาวๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องเจอกับแดดร้อนอากาศๆแล้วยังต้องทำงานหรืออยู่ห้องแอร์เป็นประจำบ่อยๆ อากาศหนาวเย็นก็เป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำมห้ผิวของเราแห้งกร้านได้ การทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำนอกจากจะช่วยทำให้ผิวของเราไม่แห้งเวลาอยู่ที่ที่มีอากาศหนาวเย็นแล้ว ยังช่วยล็อกความชุ่มชื้นของผิวอีกทั้งยังบำรุงผิวพรรณด้วยสารสกัดต่างๆที่มีอยู่ในครัมบำรุงผิวแต่ละสูตรอีกด้วย ในปัจจุบันก็มีครีมบำรุงผิวออกมาให้เลือกใช้มากมายหลายสูตร ไม่ว่าจะมีสัมผัสที่เบาบาง หรือเป็นครีมเข้มข้น รวมถึงมีวิตามินและสารสกัดต่างๆที่เหมาะสมกับผิวพรรณของเราออกมาให้เลือกใช้หลายสูตรยังไงก็ลองหาครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับผิวของเรากันสักสูตร เพราะอากาศร้อนทำร้ายผิวผิวจึงควรได้รับการบำรุงมากยิ่งขึ้น เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
2.ครีมกันแดดสำคัญมากอย่าลืมทาครีมกันแดด
บอกเลยว่าถ้าหนุ่มๆสาวๆคนไหนละเลยการทาครีมกันแดดผิวของคุณจะโดนทำร้ายอย่างหนักมาก เพราะแดดเป็นตัวการสำคัญในการทำร้ายผิวมากที่สุด โดยเฉพาะเวลาเที่ยงถึงบ่ายเป็นช่วยที่แสงแดดจัดทำร้ายผิวที่นอกจากจะทำให้แห้งแล้วยังทำให้ผิวหมองคล้ำถึงขั้นผิวไหม้เลยทีเดียว การทาครีมกันแดดถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นเป็นอย่างมมากในการดูแลรักษาผิว ในปัจจุบันครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่ต้องทาครีมหลายรอบ นอกจากนี้หลายๆคนยังคงติดภาพของการทาครีมกันแดดที่เหนียวตัว แต่เดี๋ยวนี้ครีมกันแดดที่ออกมาใหม่ๆก็สามารถทำสัมผัสให้ออกมาเหมือนการทาครีมทั่วไป ที่ไม่เหนียวสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี การทาครีมกันแดดควรทาทั้งผิวหน้าและผิวกาย เพราะนอกจากจะช่วยกันแดดแล้วยังช่วยป้องกันการเกิดฝ้ายบริเวณผิวหน้าอีกด้วย
3.อาการร้อนดื่มน้ำบ่อยๆก็ช่วยได้
ยิ่งร้อนมากร่างกายก็ยิ่งต้องการน้ำมาก เพราะน้ำในผิวสามารถระเหยออกได้ในระหว่างวัน ยิ่งถ้าโดนแสงแดดและความร้อนยิ่งทำให้ผิวเสียน้ำสูงยิ่งขึ้น อย่างที่ทราบกันดีกว่าการดื่มน้ำช่วยเรื่องสุขภาพได้หลายๆได้ แต่สำหรับเรื่องผิวพรรณแล้วน้ำถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้น ไม่แห้งหยาบกระด้าง เพราะร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญ และการใช้ชีวิตในแต่ละวันทำให้เราต้องเจอกับมลภาวะ แสงแดงร้อนๆที่เป็นตัวกลางทำให้ผิวของเราขาดน้ำ แห้งหยาบกระด้าง การดื่มน้ำควรดื่มวันละ8-10แก้ว หากเบื่อที่จะดื่มน้ำเปล่าก็ลองเลือกดื่มน้ำผลไม้คั่นสดๆ หรือน้ำขิงร้อนๆที่สามารถเพิ่มวิตามินซี วิตามินอีที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวของเรากระจ่างใสมาขึ้น และทำให้เลือกลมหมุนเวียนดีต่อสุขภาพผิวของเราแน่นอน หรือในช่วงอากาศร้อนๆการเลือกทานเป็นน้ำปั่นผลไม้ สมูสตี้โยเกิร์ตก็ทำให้ผิวได้รับประโยชน์จากผลไม้และโยเกิร์ตด้วย แถมยังช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดีไปอีก
ผิวไหม้ทำยังไงดี?
เมื่อเราต้องออกไปเจอกับมลภาวะและแสงแดดจัดๆที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ยิ่งถ้าลืมทาครีมกันแดดอีกยิ่งต้องก้มหน้ายอมรับผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับผิวได้เลย หากเป็นเช่นนี้แล้วเราจะมาบอกวิธีดีๆ เคล็ดลับเฉพาะที่จะช่วยกู้ผิวเสียได้กลับมาดีขึ้นจากเดิม โดยหลังจากที่เรานำผิวออกไปเจอกับแดดจนผิวไหม้แล้วให้เราน้ำเจลว่านหางจระเข้แช่เย็นๆจากนั้นนำมาชโลมลงบนผิวบริเวณที่โดนแสงแดงทำร้ายจะช่วยลดอาการแสบร้อน เพราะความเย็นจสกเจลว่ายหางจระเข้จะทำให้ผิวมีอุณหภูมิที่เย็นขึ้น หลังจากนี้รับรองเลยว่าผิวจะต้องหมองคล้ำขึ้น เราสามารถรักษาผิวที่หมองคล้ำจากการโดนแดดได้โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของAHA วิตามินซีและวิตามินอี จะช่วยบำรุงผิวและผลัดเซลล์ผิวที่เสียออกได้ หากจะผลัดเซลล์ให้ดีควรสครับสัปดาห์ละ2ครั้งก็เพียงพอเพราะหากมากกว่านี้อาจทำให้ผิวบาง โดยเราควรเลือกใช้สครับที่มีความละเอียด อาจจะเลือกสครับที่ได้จากธรรมชาติอย่างแอพริคอต หรือสครับเกลือเนื้อละเอียด เมื่อทำการผลัดเซลล์ผิวโดนใช้สครับแล้วก็อย่าลืมที่จะใช้ครีมกันแดดในทุกๆวัน เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนแสงแดดก็สามารถทำร้ายผิวได้อย่างไม่คาดคิด เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผิวที่เสียสะสมจากการโดนแดด และความร้อนจากแดดทำร้ายกลับมาดีขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด
ร่วมโหวตคะแนนให้เรื่องนี้ คะแนน 0.0 จาก 5 ผู้อ่าน 0 คน
HTML FOR SHARE ::
BB CODE FOR SHARE: