หายใจอย่างถูกวิธี สุขภาพดีขึ้นได้

        การหายใจเป็นพื้นฐานของร่างกายโดยร่างกายของเราจะเริ่มหายใจเองตามระบบปกติเพียงแต่ว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการหายใจก็ยังมีวิธีการหายใจที่ถูกต้องและวิธีการหายใจที่เป็นผลดีต่อสุขภาพและยังช่วยลดความอ้วนอีกด้วยค่ะ โดยหลายคนก็ยังไม่รู้ว่าลมหายใจเป็นตัวแปรสำคัญที่จะควบคุมอารมณ์และควบคุมระบบประสาทและลมหายใจยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงความแปรปรวนในจิตใจของเราค่ะ แต่ก่อนที่เราจะมาเรียนรู้วิธีการหายใจเราต้องรู้จักการกำหนดลมหายใจอย่างถูกวิธีก่อนนะคะ
        
         วิธีการหายใจอย่างถูกวิธีไม่ยากเลยโดยเริ่มจากการฝึกสูดลมหายใจเป็นระบบแบบโยคะ วิธีการขยายปอด และฝึกวิธีการบังคับปอด  ซึ่งจะเริ่มที่การหายใจเข้าให้สั้นกว่าการหายใจออก เป็นประมาณ 1:2 ก็คือถ้าเราหายใจเข้า 6 วินาที ก็ควรที่จะจะหายใจออกนาน ประมาณ 12 วินาทีนะคะ เป็นการไล่อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ออกไปจากปอดของเราค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็มาเริ่มฝึกวิธีการหายใจที่ถูกต้องกันเลยค่ะ ส่วนใหญ่ผู้ที่เริ่มฝึกช่วงแรกๆมักจะพบกับปัญหาการกลั้นหายใจแต่จะพบเพียงช่วงเวลาระยะสั้นเท่านั้น แต่ถ้าเราเริ่มที่จะสามารถกลั้นลมหายใจให้ได้นานและยาวขึ้นได้ ก็จะทำให้ปอดมีความแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นค่ะ และจะได้กักเก็บลมให้ได้มากขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการหายใจอย่างถูกวิธี เมื่อเราสามารถกักเก็บลมหายใจได้ยาวและนานขึ้นเราจะเริ่มเตรียมตัวในการฝึกการหายใจอย่างถูกวิธีกัน โดยอันดับแรกต้องหลังตรง ต้องทำให้กระดูกสันหลังตั้งตรง จะนั่งบนพื้น ยืน หรือนั่งบนเก้าอี้ก็ได้ค่ะ จากนั้นวางมือทั้ง 2 ข้างไว้ที่ช่วงท้อง เพื่อที่เราจะสามารถรู้ได้ว่าเวลาเราหายใจเข้านั้นท้องจะพอง และเมื่อเวลาเราหายใจออกนั้นท้องยุบลง  แล้วจากนั้นก็กำหนดลมหายใจโดยนับเลขจากการนับเลขเรียงตัวโดยนับทีละตัวในแต่ละครั้งและค่อยๆนับเพิ่มไล่ไป เช่น หายใจเข้านับ 1 2 3 หายใจออกนับ 1 2 3 ครั้งที่2 หายใจเข้านับ 1 2 3 4 หายใจออกนับ1 2 3 4 ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆและเพิ่มเลขไปทีละครั้งจนเมื่อหายใจเข้าออกครบ10ครั้ง  หลังจากที่ฝึกการหายใจอย่างถูกวิธีแล้วนั้น ต่อมาจะมาถึงการหายใจเพื่อสุขภาพที่ดีกันนะคะ
 
1.วิธีการหายใจสำหรับคนเป็นโรคหอบหืด
          โดยเริ่มแรกนั่งหลังตรงหลังจากนั้นให้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และกลั้นลมหายใจเอาไว้ นับ 1-5 ไว้ในใจ เมื่อนับเลขถึง 5 แล้ว ให้ค่อยๆหายใจออกอย่างเบาและผ่อนคลายที่สุด แล้วหลังจากนั้นควรค่อยๆหายใจเข้าและหายใจออกช้า ๆ ทำทุก ๆ 4 วินาที เมื่อหายใจออกจินตนาการว่าตัวเองทำอะไร อยู่ที่ก็ได้ เป็นที่ๆเรารู้สึกผ่อนคลายที่สุด เมื่อดูดดยรวมแล้วจะสามารถหายใจเข้าและหายใจออกรวมกันได้ประมาณ 10 ครั้ง/นาที สามารถทำได้บ่อยๆ หรือทุกครั้งที่มีเวลาว่าง
 
2. วิธีการหายใจลดความเครียด
         เริ่มแรกนั่งหรือยืนโดยหลังตั้งตรง หลังจากนั้นให้พ่นลมหายใจออกทางปากหรือเป่าลมออกมาให้เกิดเสียงดัง “ฟู้” แล้วรีบหายใจเข้าโดยสูดลมหายใจเข้ายาว ๆ จับเวลาโดยการนับเลข 1-4 และพยายามกักลมหายใจให้ยังคงอยู่ในปอด นับเลข 1-7หลังจากนั้นค่อยๆพ่นลมหายใจออกทางปากหรือเป่าลมออกมาให้เกิดเสียงดัง “ฟู้” แบบยาวๆจนนับได้ครบ 1-8 หลังจากนั้นจึงหายใจเข้าไปใหม่ แต่ละครั้งจะนับเป็นการหายใจครบ 1 เซต โดยทำตั้งแต่ต้นจนจบทำให้ได้4เซต สามารถทำบ่อยๆได้ทุกครั้งที่เกิดอาการเครียด หรือเวลาว่างเพื่อเป็นการผ่อนคลาย
 
 
 
 
 
3.วิธีหายใจช่วยในเรื่องน้ำหนัก
         เริ่มแรกเลือกที่นั่งที่สงบและนั่งในท่าที่สบายๆ สูดลมหายใจเข้าทางปากหรือทางจมูกก็ได้ หลังจากนั้นกลั้นลมหายใจไว้ ประมาณ 3-5วินาที  แล้วค่อยๆหายใจออกเบาๆ ทางปาก ช่วงที่หายใจออกนั้นจะยาวกว่าช่วงหายใจเข้า ประมาณ 5-10 วินาทีเพราะจะช่วยให้ปอดโล่งสบาย เพื่อที่จะได้หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในปอดได้อย่างเต็มที่  ทำตั้งแต่ต้นจนจบทำซ้ำ 3-4 ครั้ง ทุก 2-3 ชั่วโมง หรือเมื่อเวลาว่าง
 
ข้อดีของการหายใจถูกวิธีและการหายใจแต่ละวิธี
1.ถ้าเราหายใจถูกวิธีจะช่วยทำให้ผิวพรรณเนียนผ่องสดใส เพราะถ้าเราหายใจผิดจังหวะหายใจตื้นจะเป็นการสะสมตัวคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้ผิวพรรณดูหมองคล้ำได้
2.ช่วยบรรเทาอาการความเครียดและโรคหอบหืดได้ดี
3.นอนหลับดีขึ้น เพราะออกซิเจนสามารถเผาไหม้ได้มากกว่าเดิม จึงทำให้สามารถนอนได้เต็มอิ่มและสบาย
 
          ถึงแม้จะเป็นการหายใจซึ่งเป็นพื้นฐานที่ร่างกายเราทุกคนต้องทำแต่ว่าถ้าเราใส่ใจและได้ลองสังเกตสักนิดจะเข้าใจว่าเรื่องการหายใจนั้นสำคัญมากๆ เพราะการหายใจเป็นการรับเอาออกซิเจนและอีกหลายๆอย่างเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ระบบการหายใจสามารถควบคุมและบ่งบอกถึงลักษณะอารมณ์จิตใจเราได้ เพียงแค่เราปรับเปลี่ยนและลองฝึกการหายใจอย่างถูกวิธี มีผลต่อลักษณะอารมณ์ท่าทางและจิตใจทำให้มีผลเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีและสงบขึ้น  เพื่อนๆลองสามารถนำวิธีนี้ไปฝึกกันได้เลยนะคะ