ทุกเรื่องเกี่่ยวกับผู้หญิง faccebook

ไรขนบนใบหน้ามีวิธีกำจัดอย่างไร


โพสต์เมื่อ: 2 มิ.ย 2563 เวลา 21:04:59 น. อ่าน: 4,993 ครั้ง
ไรขนบนใบหน้ามีวิธีกำจัดอย่างไร
        อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของสาวๆเลยก็คือขนบนใบหน้าของสาวๆเรานั่นเองค่ะ สาวคนไหนที่ขนบนใบหน้ามีน้อยและบางถือว่าโชคดีมากๆเลยนะคะ เพราะขนบนใบหน้านั้นนอกจากจะเป็นที่สะสมของเชื้อแบคทีเรียแล้วยังเป็นสาเหตุที่สามารถทำให้เกิดสิวขึ้นบนใบหน้าของเราได้อีกด้วยนะคะ และเราจะเห็นได้ว่าเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์และสาวๆฝั่งตะวันตกจะนิยมการเอาขนบนใบหน้าออกแต่ไม่ใช่เพียงแค่สาวอย่างเราๆนะคะ พวกหนุ่มฝั่งตะวันตกก็นิยมเอาขนบนใบหน้าออกเช่นกันค่ะ ที่สาวฝั่งตะวันตกและบิวตี้บล็อกเกอร์นิยมเอาขนบนใบหน้าออกเพราะเวลาแต่งหน้าลงแป้งลงครีมลงรองพื้นแล้วนั้นจะได้ไม่ติดขนบนใบหน้าจนเกิดคราบขึ้นมานั่นเองค่ะ วันนี้เราจึงนำวิธีการกำจัดขนและวิธีการดูแลใบหน้าหลังจากกำจัดขนบนใบหน้าออกแล้วมาแบ่งปันสาวๆกันค่ะ
 
วิธีที่ 1 โกนขนบนใบหน้าออก
วิธีนี้เป็นวิธีที่รวดเร็วมากในการกำจัดขนบนใบหน้าออกไป เพียงใช้มีดโกนหรือที่โกนขนออก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สาวๆนิยมทำกันเยอะมากเพราะว่ากำจัดขนออกได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ผลเสียก็มีเช่นกัน นั่นก็คือ ใบมีดมีสิทธิ์ที่จะบาดผิวหน้าของเราได้และอาจทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง ขนที่ขึ้นใหม่นั้นจะหนาและแข็ง ทำให้ขนคุดขึ้นได้นั่นเองค่ะ
 
วิธีที่ 2 ถอนขนบนใบหน้าออก
วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่สาวๆนิยมทำเองที่บ้านมากที่สุดก็คือวิธีการถอนขนบนใบหน้านี่แหละค่ะ อาวุธประจำคัวก็คือแหนบนั่นเอง วิธีนี้จะดีกว่าการโกนขนบนใบหน้าตรงที่ว่าถอนขนออกหมดโคน ทำให้ใบหน้าเนียนแล้วขนที่ขึ้นมาใหม่จะนุ่มกว่าการใช้วิธีโกน แต่ต้องรักษาความสะอาดให้มากๆด้วยนะคะ เพราะเมื่อเราถอนขนออกแล้วเราแต่งหน้าทาแป้งลงไปอาจจะไปอุดตันรูขุมขนได้ และระวังเรื่องการอักเสบของผิวด้วยนะคะ วิธีนี้ไม่ควรทำบ่อยนะคะเพราะอาจจะทำให้รูขุมขนบนใบหน้ากว้างได้
 
วิธีที่ 3 แว็กซ์ขนบนใบหน้าออก
วิธีนี้นะคะทั้งสาวและหนุ่มฝั่งตะวันตกล้วนนิยมไปทำกันมากๆ เพราะแว็กซ์แต่ละครั้งขนเราจะไม่ขึ้นอีกสักพักและถอนรากถอนโคนขนออกไปหมดเลย แว็กซ์ครั้งหนึ่งก็ใช้เวลาไม่นาน แต่ว่าเมื่อแว็กซ์เสร็จแล้วต้องหมั่นทาครีมบำรุงและทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกหรือไปทำกิจกรรมกลางแจ้งต้องทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอนะคะ
 
วิธีที่ 4 ใช้เส้นด้ายถอนขนบนใบหน้าออก
วิธีนี้เป็นวิธีที่มีมาอย่างยาวนาน โดยสาวๆชาวจีนมักจะนิยมไปทำกัน การใช้เส้นด้ายถอนขนออกนี้ ชาวจีนเรียกว่า “หมั่งหมิง”ค่ะ วิธีนี้จะให้แป้งจีนทาลงไปบนใบหน้าแล้วหลังจากนั้นใช้เส้นด้ายทำการถอนขนบนใบหน้าออก แต่วิธีนี้ก็ควรระวังเหมือนกันนะคะเพราะว่าเราไม่รู้ว่าผิวเราจะแพ้แป้งจีนหรือไม่ แนะนำถ้าไม่มั่นใจอย่าลองนะคะ
 
วิธีที่ 5 เลเซอร์ขนบนใบหน้าออก
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดแต่ก็แพงที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการยิงเลเซอร์เราต้องไปทำที่โรงพยาบาลหรือสถาบันเสริมความงามต่างๆ และการใช้วิธีการทำเลเซอร์จะเห็นผลดีตรงที่ว่าเป็นการยิงเลเซอร์ไปกำจัดขนโดยตรงและช่วยชะลอการเกิดของขนอีกด้วย แต่สาวๆคะถ้าไปทำเลเซอร์มาแนะนำให้พักหน้าอย่าพึ่งออกไปทำกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับแดดแรงๆเลยนะคะ เพราะช่วงหลังจากไปทำเลเซอร์มาผิวจะแห้งและบางกว่าปกติ ควรทาครีมบำรุงและรอผิวฟื้นฟูสักเล็กน้อยจะดีกว่าค่ะ
 
 
วิธีการดูแลผิวหน้าหลังกำจัดขนบนใบหน้าออกแล้ว
 
วิธีที่ 1 ใช้น้ำเย็นล้างหน้าแทนน้ำอุ่น เพราะว่าการใช้น้ำอุ่นล้างหน้าจะเป็นการเปิดรูขุมขนของเรา เพราะฉะนั้นหลังการถอนขนหรือกำจัดขนมาควรช้ำน้ำเย็นล้างหน้าเพื่อปิดรูขุมขนช่วยให้รูขุมขนไม่กว้างแทนนะคะ
 
วิธีที่ 2  ล้างหน้าตามแนวขน สาวๆน่าจะเคยเห็นตามในอินเตอร์เน็ตหรือเกร็ดความรู้ต่างๆว่าล้างหน้าตามแนวขนเป็นอย่างไรนะคะ ถ้าเราล้างหน้าตามแนวขนจะช่วยไม่ให้เราไปรบกวนรูขุมขนจนเกินไปค่ะ
 
วิธีที่ 3 ทำความสะอาดผิวหน้า หลังจากที่สาวๆแต่งหน้าหรือว่าออกไปเผชิญมลภาวะกันแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วอย่าลืมทำความสะอาดผิวหน้าเช็ดเครื่องสำอางน่างๆออกกันด้วยนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นพวกเครื่องสำอางจะไปอุดตันรูขุมขนเราจนก่อให้เกิดสิวได้นะคะ
 
วิธีที่ 4 งดการกดสิวหรือบีบสิว เมื่อสิวขึ้นอย่าพึ่งไปรบกวนไปแกะ แคะ บีบมันเลยนะคะ เพราะจะเป็นการทำร้ายผิวและรูขุมขนค่ะ

วิธีที่ 5 ทำสครับผิวหน้าเองด้วยสูตรกระชับรูขุมขน ถ้าสาวๆกำจัดขนมาแล้วส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างกันใช่มั้ยคะ ถ้าสาวๆมีเวลาว่างให้สาวๆทำสครับ โดยเพียงนำน้ำตาลทราย นึ้งและน้ำมะกอกมาผสมกันแล้วหลังจากนั้นนำมาขัด ถู วนเป็นวงกลมเบาๆบนผิวหน้าเรานะคะ วิธีนี้จะเป็นการลดความมันบนใบหน้าและช่วยให้รูขุมขนกระชับเล็กลงด้วยค่ะ
 

และนี่เป็นเคล็ดลับง่ายๆที่ทำให้คุณสวยได้ไม่ยากเพราะปัญหาขนบนใบหน้าสามารถแก้ไขด้วยวิธีง่ายๆและไม่ต้องเสียเงินเยอะนะคะ

    

ร่วมโหวตคะแนนให้เรื่องนี้ คะแนน 0.0 จาก 5 ผู้อ่าน 0 คน
HTML FOR SHARE ::
BB CODE FOR SHARE: